ข้อควรคำนึงในการออกแบบเน็ตเวิร์ก

network design

     ปัจจุบันการออกแบบระบบเครือข่ายต้องสามารถรองรับความต้องการของผู้ใช้ได้ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต เมื่อเราทราบความต้องการของผู้ใช้แล้ว วิศวกร (Network Engineer) ต้องเปลี่ยนความต้องการของผู้ใช้หรือลูกค้า มาเป็นความต้องการของทรัพยากรเครือข่าย (network requirement) ซึ่งจะนําไปสู่การออกแบบเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพและความสามารถในการรองรับการเพิ่มขยายในอนาคต การออกแบบระบบเครือข่ายนั้นต้องคำนึงถึงปัจจัยพื้นฐานต่าง ๆ ดังนี้

1. Scalability
     Network ที่ออกแบบขึ้นมาสามารถรองรับการขยายตัวหรือเติบโตได้มากน้อยเพียงใด องค์กรขนาดใหญ่กำลังเพิ่มปริมาณผู้ใช้ที่ต้องใช้งานระบบเน็ตเวิร์ก แอปพลิเคซันบนเน็ตเวิร์กที่กำลังเพิ่มขึ้น ไซต์สาขา ที่เพิ่มเติม และเน็ตเวิร์กคอนเน็กชันที่เชื่อมต่อไปยังภายนอกที่ขยายตัวขึ้น สิ่งเหล่านี้ล้วนมีผลต่อการออกแบบให้มี Scalability

2. Performance
      การวิเคราะห์ประสิทธิภาพการทำงาน (performance) ของ Network โดยทั่วไปมักเกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์ เน็ตเวิร์กที่มีอยู่ การวิเคราะห์เน็ตเวิร์กที่มีอยู่จะช่วยให้เราพิจารณาได้ว่าสิ่งใดต้องมีการเปลี่ยนแปลงบ้างเพื่อทำให้บรรลุเป้าหมายด้าน performance เป้าหมายด้าน performance กับเป้าหมายด้าน scalability มักมีความเกี่ยวข้องกัน เราควรเข้าใจแผนการเติบโตของ Network ก่อนที่จะวิเคราะห์เป้าหมายด้าน performance

Network Performance Management

3. Availability
     ปริมาณของเวลาที่ Network พร้อมรองรับการใช้งานของผู้ใช้และบ่อยครั้ง ถือได้ว่า Availability เป็นเป้าหมายที่สำคัญที่สุดในการออกแบบ Network ให้กับผู้ใช้ ในปัจจุบัน ลูกค้าหรือผู้คนทั่วไปมักมองว่า Availability มีความหมายมากกว่านั้น Availability อาจใช้สื่อความหมายถึง เวลามากเท่าใดที่เน็ตเวิร์กปฏิบัติงานได้อย่างต่อเนื่อง Availability มักถูกนำไปเชื่อมโยงกับคำว่า Redundancy หรือ Fault Tolerance แต่ Redundancy ไม่ใช่เป้าหมายของการออกเเบบ Network โดยตรง Redundancy เป็นโซลูชั่นหนึ่งเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของ Availability, Redundancy หมายถึง การเพิ่มลิงก์ (link) สำรอง หรืออุปกรณ์เน็ตเวิร์กสำรองเข้าไปในเน็ตเวิร์กเพื่อหลีกเลี่ยงเวลาสูญเสีย (downtime) ด้วยการมีลิงก์หรืออุปกรณ์ที่สามารถทำงานทดแทนได้

network design

4. Security
     ความสามารถของระบบเครือข่ายในการปกป้องทรัพยากรต่าง ๆ ภายในไว้ให้ผู้ใช้ได้รับเฉพาะข้อมูลหรือใช้งานทรัพยากรได้ตามที่ตนมีสิทธิเท่านั้น Security นี้เป็นประเด็นที่กินความหมายได้กว้างมาก กว่างกว่าประเด็นด้านเทคนิคอื่นๆ เพราะเกี่ยวพันกันตั้งแต่อุปกรณ์เน็ตเวิร์กในระดับล่าง ไปจนถึงระดับของระบบปฏิบัติการ และระดับแอปพลิเคชัน อีกทั้งยังขยายความรวมไปถึงขอบเขตของการปกป้องความปลอดภัยด้วย ทั้งในอินทราเน็ต (Intranet) , อินเทอร์เน็ต (Internet) หรือเอ็กซ์ทราเน็ต (Extranet)

7 layer

5.Affordability
     เป้าหมายนี้บางครั้งถูกเรียกว่า Cost-effectiveness จุดประสงค์หลักของเป้าหมายนี้ก็คือ การออกแบบระบบเครือข่ายที่ดีต้องเปรียบเทียบความคุ้มของการลงทุนในอุปกรณ์เครือข่ายโดยเปรียบเทียบต่อ ทรูพุต(Throughput) แต่ผู้ใช้แต่ละคน เช่น เครือข่ายหนึ่งมีค่าใช้จ่าย 2,000 บาทต่อเดือนได้อินเทอร์เน็ต 1000/1000 Gbps ในขณะที่ระบบเครือข่ายที่สองมีค่าใช้จ่ายเพียง 1,000 บาทต่อเดือนได้อินเทอร์เน็ต 1000/1000 Gbps ซึ่งแสดงว่าค่าใช้จ่ายเมื่อเทียบกับประโยชน์ที่ได้รับของเครือข่ายที่หนึ่งจะสูงกว่าเครือข่ายที่สองถึง 2 เท่า แสดงว่าการออกแบบเครือข่ายที่สองดีกว่าเครือข่ายแรกเมื่อเปรียบเทียบที่ throughput เท่ากัน เป็นต้น

6. Manageability
     การออกแบบระบบเครือข่ายต้องสามารถบริหารจัดการได้อย่างไม่ยุ่งยากและสิ้นเปลืองงบประมาณการบริหารจัดการไม่มากนัก สะดวกต่อการดูแลและบำรุงรักษาโดยเจ้าหน้าที่เทคนิค รวมทั้งการใช้ซอฟต์แวร์ในการช่วยบริหารจัดการระบบเครือข่าย (Network management software) ทำให้งานการดูแลระบบสะดวกและเป็นไปอย่างอัตโนมัติหรือใช้เจ้าหน้าที่เทคนิคเท่าที่จําเป็น ดังนั้น การลงทุนในระบบซอฟต์แวร์ดังกล่าวจะต้องดูว่าสามารถลดค่าใช้จ่ายในการบริหารเครือข่ายได้มากน้อยเพียงใด

แหล่งที่มาของบทความ :

Scroll to Top